วันพฤหัสบดีที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2550

ไมโทซิส


ไมโทซิส (Mitosis) เป็นการแบ่งเซลล์ (ชีววิทยา)แบบแบ่งตัวโดยตรง คือ นิวเคลียสค่อยๆ ยาวออกและเกิดคอดลงแล้วแบ่งไซโตพลาสซึมเป็น 2 ส่วนกลายเป็น 2 เซลล์ โดยทั้ง 2 เซลล์ต่างมีคุณสมบัติเหมือนเซลล์เดิม จำนวนโครโมโซม หลังการแบ่งจะเท่าเดิม (2n) เพราะไม่มีการแยกคู่ ของโฮโมโลกัสโครโมโซม การแบ่งเซลล์แบบนี้จะพบมากในสัตว์เซลล์เดียว

ไมโทซิส
เป็นการแบ่งเซลล์ที่เกิดขึ้นกับเซลล์ร่างกาย (Somatic) ของสิ่งมีชีวิต ที่มีโครโมโซมมีค่าเป็น 2n (Diplio cell) คือ การแบ่งเซลล์จาก 1 เซลล์ เป็น 2 เซลล์มีกระบวนการแบ่งเซลล์จนกระทั่งสิ้นสุด หนึ่งวัฏจักรเซลล์ (Cell cycle) โดยส่วนประกอบต่าง ๆ ของเซลล์ใหม่เหมือนเซลล์เดิมทุกประการ
Mitosis แบ่งเป็น 5 ระยะคือ

1.Interphase - เซลล์เตรียมที่จะแบ่ง - มีเมแทบอลิซึมสูง - โครโมโซมเป็นเส้นยาว เรียกว่า โครมาทิน (Chromatin) - มีการจำลองโครโมโซมเป็น 2 เท่าของเซลล์เดิม



2. Prophase - โครโมโซมหดตัวสั้นเป็นคู่ ( 1 โครโมโซมมี 2 โครมาทิด) ยึดกันที่เซนโตรเมียร์ (Centromere) - นิวคลีโอลัสและเยื่อหุ้มเซลล์เริ่มสลายไป - ในเซลล์สัตว์มีเซนตริโอล แบ่งตัวย้ายไปอยู่คนละข้างของเซลล์ สร้างเส้นใยไมโตทิกสปินเดิลเกาะที่ เซนโตรเมียร์ของแต่ละโครโมโซม - ในเซลล์พืชมีของเหลวใส เรียกว่า เซลล์แซป(Cell sap) ทำหน้าที่เป็นขั้วแทน



3. Metaphase - โครโมโซมเรียงตัวกลางเซลล์เห็นได้ชัดเจน 1 โครโมโซมมี 2 โครมาทิด - ระยะนี้เหมาะการนับจำนวนโครโมโซม - เยื่อหุ้มเซลล์เริ่มสลายไป


การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis )

การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์ร่างกาย แบ่งเป็น 5 ระยะดังนี้
1 ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase ) ดูจากภาพการแบ่งเซลล์ระยะ อินเตอร์เฟส (อย่างละเอียด)
2 ระยะโปรเฟส (Prophase ) โครโมโซมเป็นเส้นชัดเจน เรียกโครมาติด
3. ระยะ เมทาเฟส (Mathaphase) โครโมโซมจะมาเรียงตัวตรงกลางเซลล์ เห็นโครโมโซมชัดเจนที่สุด
4. ระยะอนาเฟส (Anaphase ) สปินเดิลไฟเบอร์จะหดตัวสั้นเข้าดึงเซนโตเมียร์ให้แยกออกจากกัน ปลายๆ อนาเฟส โครโมโซมจะแยกออกเป็นตัว v เคลื่อนไปอยู่ที่ขั้วของเซลล์ รยะนี้ โครโมโซม เป็น 4 n
5. ระยะเทลโลเฟส (Tellophase ) เป็นระยะสุดท้าย โครโมโซมไปอยู่ที่ขั้วของเซลล์ ทั้ง 2 ข้าง สร้างเยื่อหุ้มนิวเคลียสใหม่ แล้วแบ่ง ไซโตพลาสซึม เป็น 2 เซลล์

ระยะ อินเตอร์เฟส (Inter phase) มีระยะย่อยq
อยู่ 3 ระยะๆ S ซึ่ง เป็นระยะที่มีการสังเคราะห์ DNA ขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง แต่เนื่องจาก DNA มีตำแหน่งอยู่บนโครโมโซม จึงอาจกล่าวได้ว่า โครโมโซมมีการจำลองตัวเองเพิ่มจาก 1 เป็น 2 โครมาติด
- เมื่อเสร็จสิ้นระยะนี้ โครโมโซม 1 แท่ง จะจำลองตัวเองเป็นเส้นคู่ แต่ละเส้นเรียกว่า ซิสเตอร์โครมาติด( Sister chromatid) เหมือนกันทุกประการ ติดกันอยู่ที่เซนโตเมียร์
หรือไคนีโตคอร์

ระยะโปรเฟส (Prophase)เป็นระยะที่ต่อมาจากระยะอินเตอร์เฟส โครโมโซมเห็นชัดเจนขึ้นเป็นโครมาติด
นิวคลีโอลัส และเยื่อหุ้มนิวเคลียสเริ่มสลายไป
ระยะเมทาเฟส (Mataphase) เป็น
ระยะที่ต่อมาจากระยะ โปรเฟส เป็น
ระยะที่ เห็นโครมาติดชัดเจนมาก
โครโมโซมมาเรียงตัวตรงกลางเซลล์
มีสายใยสปินเดิลไฟเบอร์มาดึงที่เซนโตเมียร์ไปที่ขั้วทั้ง 2 ข้างของเซลล์

ระยะอนาเฟส เป็นระยะหนึ่งที่ต่อมาจากระยะโปรเฟส ระยะนี้จะมีการแยกกันของโครมาติด โดยการที่สายใย สปินเดิลไฟเบอร์หดตัวสั้นดึงให้เซนโตเมียร์แยกออก และโครมาติด เคลื่อนที่ไปตามแรงดึง บริเวณขั้วเซลล์ทั้ง 2 ข้าง
ระยะเทลโลเฟส เป็นระยะที่ต่อมาจากเทลโลเฟสโครโมโซมถูกดึงมาที่ขั้วของเซลล์ 2 ข้าง
สปินเดิลไฟเบอร์สลาย
มีนิวคลีโอลัสและเยื่อ หุ้มนิวเคลียสถูกสร้างขึ้นมาใหม่เซลล์สัตว์ แบ่งไซโตพลาสซึมและนิวเคลียสเป็น 2 เซลล์
เซลล์พืชสร้างเซลล์เพลทใหม่มากั้นเป็น 2เซลล์


การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ไมโอซิส1
ไมโอซิส 1 แบ่งเป็น 5 ระยะย่อยๆ ดังนี้1. อินเตอร์เฟส 1 (ดูจากการแบ่งแบบไมโทซิส)2. โปรเฟส 1 มี 5 ระยะ (ดูจาก ไมโทซิสโปรเฟส )3. เมทาเฟส1 โครโมโซมที่มีการเข้าคู่กันอยู่แล้วจากระยะโปรเฟส 1 อาจเกิดการครอสซิ่งโอเวอร์หรือไม่ก็ได้ มาเรียงตัวตรงกลางเซลล์ เป็น ไบวาเลนต์ มีสปินเดิลไฟเบอร์มายึดที่เซนโตเมียร์ไปที่ขั้วเซลล์4. อนาเฟส1 สายสปินเดิลไฟเบอร์หดตัวสั้นเข้าดึงให้ฮอโมโลกัสโคร โมโซม แยกไปที่ขั้วของเซลล์5. เทลโลเฟส 1. โครโมโซมแยกไปที่ขั้วเซลล์ ลดจำนวนลงครึ่งหนึ่ง (n) จาก 1 เซลล์ เดิม เป็น 2 เซลล์ใหม่



การแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ไมโอซิส2


ไมโอซิส 2 เป็นระยะที่ต่อมาจากไมโอซิส 1 แบ่งเป็น 5 ระยะ คือ1. อินเทอร์เฟส 2 คั่นระหว่าง M1 และ M2 ช่วงสั้นมาก2. โปรเฟส 2 โครโมโซมพันกันอย่างรวดเร็วแต่ยังเป็น 2โครมาติดอยู่3. เมทาเฟส 2 โครโมโซมมาเรียงตัวตรงกลางเซลล์ เซนโตเมียร์เริ่มแบ่งตัว พร้อมแยกออก4. อนาเฟส 2 สปินเดิลไฟเบอร์ดึงให้ซิสเตอร์โครมาติดเคลื่อนแยกไปที่ขั้วเซลล์5. เทลโลเฟส 2 โครโมโซมไปรวมที่ขั้วเซลล์แบ่งจาก 2 เป็น 4 เซลล์



เปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส และ ไมโอซิส


การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เป็นการแบ่งของเซลล์ร่างกาย (Somatic cell ) เซลล์ 1 เซลล์จะแบ่งได้เซลล์ใหม่ 2 เซลล์ โครโมโซมไม่เปลี่ยนแปลงการแบ่งเซลแบบไมโอซิส เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์ มีการแบ่ง 2 ครั้ง คือ ไมโอซิส 1 และไมโอซิส 2 แบ่งจากเซลล์ต้นกำเนิด 1 เซลล์ได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์ จำนวนโครโมโซมลดลงครึ่งหนึ่ง


การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส (Mitosis )

การแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส เป็นการแบ่งเซลล์เพื่อสร้างเซลล์ร่างกาย แบ่งเป็น 5 ระยะดังนี้1 ระยะอินเตอร์เฟส (Interphase ) ดูจากภาพการแบ่งเซลล์ระยะ อินเตอร์เฟส (อย่างละเอียด)2 ระยะโปรเฟส (Prophase ) โครโมโซมเป็นเส้นชัดเจน เรียกโครมาติด3. ระยะ เมทาเฟส (Mathaphase) โครโมโซมจะมาเรียงตัวตรงกลางเซลล์ เห็นโครโมโซมชัดเจนที่สุด4. ระยะอนาเฟส (Anaphase ) สปินเดิลไฟเบอร์จะหดตัวสั้นเข้าดึงเซนโตเมียร์ให้แยกออกจากกัน ปลายๆ อนาเฟส โครโมโซมจะแยกออกเป็นตัว v เคลื่อนไปอยู่ที่ขั้วของเซลล์ รยะนี้ โครโมโซม เป็น 4 n5. ระยะเทลโลเฟส (Tellophase ) เป็นระยะสุดท้าย โครโมโซมไปอยู่ที่ขั้วของเซลล์ ทั้ง 2 ข้าง สร้างเยื่อหุ้มนิวเคลียสใหม่ แล้วแบ่ง ไซโตพลาสซึม เป็น 2 เซลล์

ระยะ อินเตอร์เฟส (Inter phase) มีระยะย่อยqอยู่ 3 ระยะๆ S ซึ่ง เป็นระยะที่มีการสังเคราะห์ DNA ขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง แต่เนื่องจาก DNA มีตำแหน่งอยู่บนโครโมโซม จึงอาจกล่าวได้ว่า โครโมโซมมีการจำลองตัวเองเพิ่มจาก 1 เป็น 2 โครมาติด- เมื่อเสร็จสิ้นระยะนี้ โครโมโซม 1 แท่ง จะจำลองตัวเองเป็นเส้นคู่ แต่ละเส้นเรียกว่า ซิสเตอร์โครมาติด( Sister chromatid) เหมือนกันทุกประการ ติดกันอยู่ที่เซนโตเมียร์หรือไคนีโตคอร์

ระยะโปรเฟส (Prophase)เป็นระยะที่ต่อมาจากระยะอินเตอร์เฟส โครโมโซมเห็นชัดเจนขึ้นเป็นโครมาติดนิวคลีโอลัส และเยื่อหุ้มนิวเคลียสเริ่มสลายไประยะเมทาเฟส (Mataphase) เป็นระยะที่ต่อมาจากระยะ โปรเฟส เป็นระยะที่ เห็นโครมาติดชัดเจนมากโครโมโซมมาเรียงตัวตรงกลางเซลล์มีสายใยสปินเดิลไฟเบอร์มาดึงที่เซนโตเมียร์ไปที่ขั้วทั้ง 2 ข้างของเซลล์

ระยะอนาเฟส เป็นระยะหนึ่งที่ต่อมาจากระยะโปรเฟส ระยะนี้จะมีการแยกกันของโครมาติด โดยการที่สายใย สปินเดิลไฟเบอร์หดตัวสั้นดึงให้เซนโตเมียร์แยกออก และโครมาติด เคลื่อนที่ไปตามแรงดึง บริเวณขั้วเซลล์ทั้ง 2 ข้างระยะเทลโลเฟส เป็นระยะที่ต่อมาจากเทลโลเฟสโครโมโซมถูกดึงมาที่ขั้วของเซลล์ 2 ข้างสปินเดิลไฟเบอร์สลายมีนิวคลีโอลัสและเยื่อ หุ้มนิวเคลียสถูกสร้างขึ้นมาใหม่เซลล์สัตว์ แบ่งไซโตพลาสซึมและนิวเคลียสเป็น 2 เซลล์เซลล์พืชสร้างเซลล์เพลทใหม่มากั้นเป็น 2เซลล์
ข้อเปรียบเทียบการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซิส

ไมโทซิส
1. โดยทั่วไป เป็นการแบ่งเซลล์ของร่างกาย เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ เพื่อการเจริญเติบโต หรือการสืบพันธุ์ ในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
2. เริ่มจาก 1 เซลล ์แบ่งครั้งเดียวได้เป็น 2 เซลล์ใหม่
3. เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้น 2 เซลล์ สามารถแบ่งตัวแบบไมโทซิสได้อีก
4. การแบ่งแบบไมโทซิส จะเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ ระยะไซโกต และสืบเนื่องกันไปตลอดชีวิต
5. จำนวนโครโมโซม หลังการแบ่งจะเท่าเดิม (2n) เพราะไม่มีการแยกคู่ ของโฮโมโลกัสโครโมโซม
6. ไม่มีไซแนปซิส ไม่มีไคแอสมา และไม่มีครอสซิงโอเวอร์
7. ลักษณะของสารพันธุ์กรรม (DNA) และโครโมโซมในเซลล์ใหม่ ทั้งสองจะเหมือนกันทุกประการ




ไมโอซิส
1. โดยทั่วไป เกิดกับเซลล์ ที่จะทำหน้าที่ ให้กำเนิดเซลล์สืบพันธุ์ จึงเป็นการแบ่งเซลล์ เพื่อสร้างเซลล์สืบพันธุ์
2. เริ่มจาก 1 เซลล์ แบ่ง 2 ครั้ง ได้เป็น 4 เซลล์ใหม่
3. เซลล์ใหม่ที่เกิดขึ้น 4 เซลล์ ไม่สามารถแบ่งตัวแบบไมโอซิสได้อีก แต่อาจแบ่งตัวแบบไมโทซิสได้
4. ส่วนใหญ่จะแบ่งไมโอซิส เมื่ออวัยวะสืบพันธุ์เจริญเต็มที่แล้ว หรือเกิดในไซโกต ของสาหร่าย และราบางชนิด
5. จำนวนโครโมโซม จะลดลงครึ่งหนึ่งในระยะไมโอซิส เนื่องจากการแยกคู่ ของโฮโมโลกัสโครโมโซม ทำให้เซลล์ใหม่มีจำนวนโครโมโซมครึ่งหนึ่ง ของเซลล์เดิม (n)
6. เกิดไซแนปซิส ไคแอสมา และมักเกิดครอสซิงโอเวอร์
7. ลักษณะของสารพันธุกรรม และโครโมโซมในเซลล์ใหม่ อาจเปลี่ยนแปลง และแตกต่างกัน ถ้าเกิดครอสซิงโอเวอร์